วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิธีการเลือก “ผู้รับเหมา” สร้างบ้านเดี่ยว พวกไม่ถูกโกง

วิธีเฟุ้งเฟื่องกการ ผู้รับเหมา สร้างบ้านเดี่ยว แบบไม่ถูกโกง








ปัญหาเรื่อง ผู้รับเหมาเป็นปัญหาที่ไม่เคยหมดไปเพราะว่าคนที่คิดจักสร้างบ้านเดี่ยวใหม่ ด้วยเหตุที่ผู้รับเหมาก็เหมือนคนทั่วๆ ไปมีดี เลวปะปน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่เราจะได้ยินปัญหาผู้รับเหมาหนีงาน ไม่รับผิดชอบ แอบไปซื้อของเกรดต่ำว่าใช้ในการก่อสร้าง เบิกเงินล่วงหน้าแล้วหนีงาน รวมถึงอีกหลายๆ ปัญหา
Sanook Home จึงมีเทคนิคในการเเลื่องกผู้รับเหมา ที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับเจ้าของบ้านมาแนะนำกันค่ะ
-เเอิกเกริกกคนที่มีประสบการณ์ : เราสมรรถเช็คผลงานของผู้รับเหมาคนนั้นๆ ได้จากลูกค้า หรือไม่ก็ดูผลงานที่ทะลวงมาของเขา
-พิจารณาเปรียบเทียบ : ก่อนปลงใจเละบือกใครเป็นผู้รับเหมาให้กับเรา ควรให้ผู้รับเหมาหลายๆ รายร่วมเสนอสนนราคาแข่งขันกัน จากนั้นก็พิจารณาว่าจักเโจษกระฉ่อนกใช้บริการผู้รับเหมารายใด ผู้รับเหมาที่เสนอสนนราคาต่ำไป อาจใช้วัสดุคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ส่วนผู้รับเหมาที่เสนอสนนราคาแพงเกินไปอาจเรียกเงินเกิน เหรอโกงเรานั่นเอง
-ผู้รับเหมาชีวประวัติส่วนตัวดี :ผู้รับเหมารายนั้นควรมีที่อยู่ ไม่ก็บริษัทเป็นหลักแหล่ง รวมทั้งจะต้องจัดตั้งอย่างถูกกฎหมายอีกด้วย
-ควรเระบือกผู้รับเหมาที่มีความซื่อสัตย์ไว้ก่อน :ทำทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน มีรายละเอียด พร้อมทั้งหลักฐานต่างๆ อย่างครบถ้วน เช่นราคาวัสดุอุปกรณ์ การทำงานที่กำหนดไว้เป็นไปตามที่บอกกล่าวกล่าวใช่ไหมไม่
-กรุ๊ปงานมืออาชีพบางคนไปเจอผู้รับเหมาแบบรับช่วงต่อ ซึ่งอาจทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นควรเลือกระฉ่อนเลื่องกบริษัทผู้รับเหมาที่มีฝ่ายงานมืออาชีพ พร้อมกับมีจำนวนปางพอกับการทำงาน

-ให้ใส่ใจดูแลการทำงาน :โดยคุณสมบัติข้อนี้ไม่ใช่ของผู้รับเหมาเท่านั้น แต่เจ้าของบ้านเองก็ต้องหมั่นมาตรวจงานเสมอ เพราะว่าจักได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทัน
-ให้ทำสนธิข้อผูกพันจ้าง : ควรจะทำอนุปฏิญาณไว้จ้างให้ถูกต้องพร้อมแนบรายการวัสดุต่างๆ ให้ชัดเจน
-แบ่งจ่ายเงินเป็นงวด : เราไม่ควรจ่ายเงินผู้รับเหมาไปเลยในทีเดียว ควรแบ่งจ่ายตามปริมาณงานที่ผู้รับเหมาทำได้ นอกจากนี้ควรหักเงินเพราะว่าประกันผลงานอีก 5-10 % เพื่อป้องกันปัญหาทิ้งงาน

-รับประกันผลงาน : ควรเลือกระฉ่อนกผู้รับเหมาที่มีการรับประกันผลงานของตัวเอง เช่นการรับประกันโครงสร้าง ความแข็งแรง ความเสียหาย การซ่อมแซม
ได้เทคนิคด้วยการเลือกระฉ่อนกผู้รับเหมาไปแล้ว แล้วหวังว่าซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่ของคุณจะเสร็จเร็วตามกำหนด พร้อมกับสวยงาม มั่นคงอย่างที่ตั้งใจนะคะ



ดีไลท์-พุทธมณฑล-ศาลายา




บนสังคมแห่งสุดยอดความ สงบ พร้อมทั้งเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนบ้านในโครงการเพีบง 132 หลัง พร้อมเอาใจใส่ด้วยการจัดวางผังโครงการ ที่ทำให้ทุกบ้านไม่รู้สึกแออัด และ Smart Home Security ความอุ่นใจไร้ขีดจำกัด ให้ทุกวินาทีแห่งการพักผ่อน มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดลพ่าง 10 นาที 




ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com




วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บ้านเดี่ยว : การที่จะเสริมมงคลเอื้ออำนวยพร้อมทั้งบ้านเดี่ยวของคุณด้วย ฮวงจุ้ยของบันไดด้านในบ้าน

บ้านเดี่ยว : การที่จักเสริมมงคลให้กับบ้านเดี่ยวของคุณด้วย ฮวงจุ้ยของบันไดภายในบ้าน


 

บันไดของบ้านก็คือทางเดินของมังกร ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นการเปรียบเทียบที่ให้ความสำคัญกับบันไดบ้านเดี่ยวที่เชื่อกันว่ามีการบัญญัติหลักวิชานี้ภายหลังในยุคเฉียนหลงแห่งราชวงค์ชิง ซึ่งเป็นรัชระยะเวลาที่การที่จักให้ความสำคัญความสำคัญในเรื่องของทำเลพร้อมด้วยการดูดาว ดังที่มีเรื่องเล่าว่า จักรพรรดิเฉียนหลงได้มีการให้สร้างหอดูดาวที่ให้สูงเท่ากับหอหลิงไถ ช่วงเวลาราชวงศ์เซี่ย สามพันกว่าปีเพราะเกือบ เพื่อคอยดูดาวกษัตริย์ ไม่ใช่หรือ ท่านอ๋องชายแดนที่จะกระด้างกระเดื่องกบฏต่อแผ่นดินของพระองค์นั้น เพราะว่าพระองค์จะเสด็จขึ้นลงหอนี้เป็นประจำ บันได ในทางฮวงจุ้ยนั้นก็ถือว่าเป็นตัวเชื่อมโยงของพลังชี่ ระหว่างพื้นบ้านของในแต่ละชั้น พร้อมด้วยยังเป็นตัวสร้างความเคลื่อนไหว เกิดการเคลื่อนที่ของพลังงาน ถ้าวางตำแหน่งบันไดผิด ย่อมส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยอย่างแน่นอน แต่ถ้าวางตำแหน่งที่ถูกต้องนั้น ก็อาจจักช่วยเสริมโชคลาภได้ ดังนั้น เราควรที่จะลองมาดูการวางบันไดที่ถูกหลักฮวงจุ้ยกันดีกว่า การสร้างบันได ไม่ใช่จะสร้างอย่างไรก็ได้ แต่ต้องให้มีความแข็งแรงแล้วก็ ปลอดภัย ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตราย ด้วยกันเกิดอุบัติเหตุต่อสมาชิกในครอบครัวได้ง่าย
1. บันไดนั้นไม่ควรที่จักมาวางอยู่ตรงกับประตูทางเข้าบ้าน ก็เพราะว่าจักทำให้กระแสชี่ไหลเข้าบ้านไม่สะดวก อีกทั้งยังทำให้กระแสชี่ไหลออกนอกบ้านได้ง่าย ลักษณะอย่างนี้ในทางฮวงจุ้ยหมายถึง เก็บทรัพย์ไม่อยู่ หรือไม่ก็ ขัดทรัพย์ เรียกได้ว่า หาเงินมาเท่าไหร่ ก็ไม่มีเหโจษจัน
 2. ต่างว่าจำเป็นจักต้องการทำบันไดบริเวณอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้าน ควรทำเลี่ยงมาทางด้านข้างแทน เพื่อให้บริเวณหน้าประตูเป็นชานพัก แต่ต้องระวังอย่าทำบันได 2 ข้าง ในลักษณะเดินขึ้นข้างหนึ่ง แล้วไปลงอีกข้างหนึ่ง ก็เพราะว่าถ้าบันไดจะเข้าข่ายเมรุเผาศพ คนโบราณถือว่าอัปมงคลยิ่ง
3. ห้ามวางอยู่ตำแหน่งบันไดเอาไว้ใจกลางของบ้าน ในทางฮวงจุ้ยจักถือว่าเป็นตำแหน่งหัวใจของบ้าน เพราะว่าฉะนั้นการจะนำอะไรไปวางในจุดนี้ จักต้องพิจารณาให้มากๆ ซึ่งในกรณีจุดกลางบ้านเป็นบันได จะถือว่าเป็นข้อเสียแล้วก็ยังเป็นข้อห้ามในทางฮวงจุ้ย เพราะว่าจะทำให้เจ้าของบ้านอยู่ไม่ติดบ้านไม่ใช่หรือชีพจรลงเท้า เหตุเพราะบันไดมีสภาพที่เคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง นอกจากนี้ อาจทำให้เจ้าของบ้านเป็นโรคหัวใจได้ง่าย เพราะถ้าวางตำแหน่งหัวใจจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
4. ตำแหน่งบันไดที่ดี นั้นก็ควรที่จะอยู่ข้างบ้าน อาจอยู่ซ้ายหรือขวาก็ได้ โดยส่วนใหญ่จักพิจารณาจากประตูทางเข้าบ้านเป็นหลัก ถ้าประตูทางเข้าอยู่ซ้าย บันไดก็ควรอยู่ขวา แต่ถ้าประตูอยู่ขวา บันไดก็ควรอยู่ทางด้านซ้าย จึงจักถือว่าดี แต่ตำแหน่งที่ดีที่สุดควรวางไว้ส่วนกลางของบ้าน ไม่ใช่ใจกลางบ้าน อย่าสับสน เหตุผลก็คือเป็นจุดที่สะดวกที่สุด เพราะว่าเวลาจักเดินไปหน้าบ้านหรือว่าหลังบ้าน จะมีระยะห่างที่พอๆกัน
5. บันไดไม่ควรจักอยู่ในทิศที่ตรง (ออก ตก เหนือ ใต้) อาจจักทับดาวเสน่ห์ของสมาชิกในบ้านได้ การหันตำแหน่งทางขึ้นของบันไดแนะนำให้หันในทิศเฉียง โดยไม่ควรอยู่ในทิศหลักอย่าง ตะวันออก เหนือ ใต้ ไม่ใช่หรือตะวันตก ก็เพราะว่าอาจจักทับดาวเสน่ห์ของสมาชิกในบ้าน บดบังพลังบวกต่าง ๆ สมมุติหันในทิศเฉียง เช่น ตะวันออกเฉียงเหนือ แทน จักช่วยเปิดทางได้มากขึ้น (ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูแบบละเอียด)
6. บันไดห้ามชันแล้วก็แคบ บันไดที่ดีนั้นจักต้องลาดชันไม่เกิน 45 องศา บันไดที่กว้างย่อมดีกว่าแคบ เพราะจะทำให้การเดินสะดวก ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ความกว้างไม่ควรต่ำกว่า 1 เมตร ขนาดที่เหมาะสมที่สุดนั้นควรอยู่ที่ 1.2-1.5 เมตร ความสูงอยู่ที่ระหว่าง 15-20 ซม. เพราะว่าความสูงที่ดีที่สุดอยู่ที่ 17.5 ซม. พร้อมทั้งความลึกของบันไดอยู่ที่ 25-30 ซม. ถ้าความลึกน้อยกว่านี้จะทำให้การเดินนั้นอันตรายพร้อมกับไม่สะดวก
7. บันไดบ้านไม่ควรเทออกจากด้านของประตูห้องนอนในระยะกระชั้น เนื่องจากที่บันไดจักมีสภาพเหมือน Slope เทออกตลอดเวลา ดังนั้นกระแสอากาศจักไหลออกจากประตูสม่ำเสมอ ถ้าหากประตูห้องนอนของท่านรับพลังงานจากองศาทิศทางที่ดี จะมีผลให้เกิดการนำพาพลังงานที่ดีนั้นออกไปอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นเดียวกัน เพราะสภาพของบันไดที่กระชั้นกับประตูห้องนอนเกินไปนั้นคือระยะที่ต่ำกว่า 1-2 เมตร ยิ่งบันไดใกล้ประตูยิ่งมีผลกระทบมาก ทางแก้ไขให้นำม่านบังตามากั้นระหว่างประตูกับบันได
8. ควรมีชานพักคั่นกลางบันได เพื่อป้องกันสภาพการไหลของกระแสลมด้วยกันอากาศที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาบริเวณบันได ไม่ให้มีอัตราเร่งของการไหลที่สูงจนเกินไปนัก การทำชานพักที่กลางระยะความสูงรวมของบันได ก็ถือได้ว่าจะเป็นตัวที่ช่วยในการชะลอการไหลของกระแสอากาศได้
9. ขั้นบันไดนั้นห้ามเป็นเลขคู่ เป็นเพราะถ้าภายในทางสถาปัตยกรรมศาสตร์นั้น สถาปนิกส่วนใหญ่จักชอบออกแบบตามหลักการที่ว่า หากเราเกริ่นเดินด้วยเท้าข้างใด ควรจะจบขั้นสุดท้ายด้วยเท้าอีกข้าง เพื่อจะที่ทำให้เกิดความสมดุลของการทรงตัวในขณะที่เดินขึ้นด้วยกันลงบันได แต่คนโบราณเชื่อว่าเลขคี่จะหมายถึงคนเป็น ส่วนเลขคู่จักหมายถึงคนตาย
10. บ้านที่มีบันไดนอกบ้าน ก็คือ บันไดโจร บันไดบ้านไม่ควรอยู่นอกบ้านเดี่ยว ในการตกแต่งบ้านเดี่ยว แม้จะสวยงามแต่ถือว่าเป็นบันไดโจร นอกจากจักทำให้ผู้อาศัยมีเกณฑ์เสียเงินเสียทองแล้ว ยังเป็นการเปิดทางให้กับมิจฉาชีพเข้าสู่ตัวบ้านง่ายขึ้นด้วย
11. เนื่องด้วยบ้านทรงไทยหรือไม่บ้านยกพื้นสูง ถ้ามีบันไดออกมานอกบ้าน แนะนำให้ทำบันไดทางซ้ายหรือไม่ขวาของประตูบ้านเท่านั้น จักทำให้เก็บเงินได้ดี เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นของการวางบันไดบ้านในหลักการตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในเชิงองศา ทิศทาง( Compass Feng Shui Theory )หรือไม่ก็ก็ คือซินแสจักวางบันไดบ้านอยู่ในองศาทิศทางที่ดีประจำอยู่ ดังนั้นเพื่อการจัดฮวงจุ้ยให้ได้ผลที่ดีที่สุดนั้นการวางบันไดควรได้รับการวางให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยตั้งแต่ช่วงออกแบบบ้านเดี่ยวก็เพราะว่าบันไดนั้นถือเป็นโครงสร้างหนึ่งของบ้บ้านเดี่ยวใหม่ที่ไม่เก่งแก้ไขทีหลังได้แล้ว


ภัสสร เพรสทีจ ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม


เตรียมพบโครงการใหม่ ภัสสร เพรสทีจ ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม บ้านเดี่ยว“ รองรับ 4 ห้องนอน* ติดถนนพุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมต่อ เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์เร็วๆ นี้  ลงทะเบียนรับอภิสิทธิ์เพื่อครอบครอง

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 เทรนด์ประพันธ์บ้านเดี่ยวมาพลังปี 2015

10 เทรนด์แต่งบ้านเดี่ยวมาแรงของปี 2015







ใครที่คิดว่าปีหน้าจักเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งบ้านเดี่ยวใหม่ ลองดู 10 เทรนด์มาแรงในปี 2015 ที่จักพูดถึงการออกแบบกับการตกแต่งทุกอย่างภายในบ้าน Sanook!Home จึงนำเทรนด์มาแรงที่จะกลายเป็นกระแสชอบในปีหน้ามาให้ทุกคนเก็บไว้เป็นข้อมูล ด้วยว่าเตรียมวางแผนแต่งบ้านกันตั้งแต่เนิ่นๆ ลองไปดูกันนะคะว่า เราจักต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อบ้านแบบใหม่ของเรา



1.การออกแบบที่เน้นการใช้งาน : การออกแบบลักษณะใหม่ที่จักเป็นกระแสมาแรงในปีหน้าคือ การออกแบบของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก เพราะว่าของแต่งบ้าน ไม่ก็เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ จักต้องเชี่ยวชาญทำหน้าที่ได้มากกว่าหน้าที่หลักของตัวเอง หรือว่าไม่ก็ทำเป็นแยกชิ้นส่วนใช่ไหมประกอบกันขึ้นมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่เพื่อประโยชน์ที่หลากหลาย กับช่วยประหยัดพื้นที่บ้าน







2.งานดีไซน์รูปแบบเลขาคณิต : งานดีไซน์ที่มีรูปแบบของเลขาคณิตเข้ามาเกี่ยวข้อง จักได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะว่าศักยนำไปใช้ตกแต่งได้ในทุกๆ ส่วนของบ้านเช่นโคมไฟ ภาพพริ้นท์เลขาคณิต งานผ้า การนำงานเลขาคณิตไปตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงการปูกระเบื้อง





3.ผสมผสานวัฒนธรรม : ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพราะว่าเฉพาะในเรื่องการสื่อสาร ทำให้โลกแทบจักกลายเป็นเช่นหมู่บ้านเล็กๆ วัฒนธรรมทั่วโลกที่หลากหลายถูกเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลในเรื่องการออกแบบบ้านด้วยกันการตกแต่งด้วย ดังนั้นเราจักอาจจะเห็นการตกแต่งสไตล์แอฟริกา สไตล์เปอร์เซียน รวมถึงอีกหลายๆ สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งเราสามารนำมาผสมผสานกลายเป็นการออกแบบด้วยกันสินค้าตัวใหม่ๆ ได้







4.สินค้าพร้อมทั้งการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติพร้อมกับห่วงใยสิ่งแวดล้อม การแต่งบ้านด้วยสินค้าทั้งพรม ช้อน เฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งต่างๆ โคมไฟ รวมถึงของแต่งบ้านชนิดอื่นจักต้องทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่นไม้ ทองแดง แก้ว ผ้ากระสอบ ผ้าลินิน เป็นต้น







5.ของที่สมรรถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ : มีสิ่งของมากมายภายในบ้านที่ถูกทิ้งไว้เพราะว่าไม่ได้ใช้งาน แล้วทำไมเราไม่นำของเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่ ในปีหน้าเทรนด์การนำของใช้เก่ากลับมาใช้ใหม่ ไม่ก็เปลี่ยนหน้าที่ของมันเสียใหม่จักเป็นกระแสที่ได้รับความนิยม เช่นนำแจกันแก้ว ไม่ใช่ไม่ใช่หรือขวดแก้วมาทำเป็นโคมไฟ กล่องไม้ใบเดิมเปลี่ยนเป็นที่เก็บของ







6.สีธรรมชาติพร้อมทั้งสีพาสเทลอ่อนๆ : ในปีหน้าเทรนด์สีธรรมชาติรวมถึงสีพาสเทลอ่อนๆ จักได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งสีเทา สีดำ สีครีม สีขาว สีน้ำตาล สีเขียว สีเหโจษจันเลื่องงมัสตาร์ด สีลูกพีช สีลาเวนเดอร์ ฯลฯ สีสันเหล่านี้จักทำให้บ้านของคุณน่าสนใจ








7. การออกแบบสไตล์ธรรมชาติ : รูปแบบการออกแบบใหม่ๆ เพราะว่าในปีถัดไป จักเน้นการออกแบบให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เช่นใช้ผืนผ้าสีสว่าง พื้นสีเขียว ไม่ใช่หรือตกแต่งผนังด้วยต้นไม้ด้วยกันดอกไม้ สีที่ใช้คือสีธรรมชาติเช่นสีเขียว ลายพริ้นท์ดอกไม้บนผ้า วอลเปเปอร์ ใช่ไหมพื้นกระเบื้อง รวมถึงผนังก็ควรใช้สีที่มีชีวิตชีวา








8.การตกแต่งผนังด้วยไอเดียสร้างสรรค์: การนำรูปแบบเลขาคณิต งานพริ้นท์ทั้งดอกไม้ ใช่ไหมไม่ก็ธรรมชาติ นั่นก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่สร้างสรรค์ด้วยตกแต่งผนัง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการใช้ชอล์กวาดภาพ ติดโปสเตอร์ เหรอวาดลายเส้น ใช้ตัวอักษรหรือไม่ก็ถ้อยคำที่มีความหมายตกแต่งบนผนัง








9.งานพริ้นท์ภาพขนาดใหญ่ และดิจิทัล อาร์ต : ลืมงานพริ้นท์ภาพแบบเล็กๆ ที่คุณเคยใช้ไปได้เลย เพราะว่าในปีหน้างานภาพพริ้นท์ขนาดใหญ่จักได้รับความนิยม คุณทำได้เร่ำเลื่องลือกงานศิลปะดิจิทัลก็เพราะว่าด้วยตกแต่งผนัง ด้วยกันงานผ้าเช่นปลอกหมอนอิง









10.หินอ่อน : มีวัสดุตกแต่งห้องน้ำมากมายที่น่าสนใจในปีหน้า แต่หินอ่อนคือวัสดุที่จะได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยเหตุว่ามันจักทำให้ห้องน้ำของคุณดูน่าสนใจและหรูหรา นอกจากนั้นยังทำเป็นนำหินอ่อนไปสร้างสรรค์เป็นของตกแต่งชิ้นอื่นๆ ภายในบ้านเดี่ยวใหม่ได้อีกด้วย


ดีไลท์-ดอนเมือง-รังสิตรถไฟฟ้าสายสีแดง






บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ ดีไซน์ โมเดิร์นบนทำเลศักยภาพ สู่เส้นทางความสะดวกสบายแห่งอนาคต รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) สถานีรังสิต เชื่อมต่อความสุข ทุกการเดินทาง อาทิเช่น ถ.พหลโยธิน,ถ.วิภาวดี พร้อมทั้งสะพานปทุมธานี 2 เชื่อมต่อสู่ ถ.ราชพฤกษ์ ฉีกกรอบเดิมสู่ความทันสมัย กับโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern ออกแบบให้ลงตัวทุกจังหวะการใช้ชีวิต ให้คุณได้ใช้พื้นที่ได้สูงสุดกว่าใคร หลุดกรอบด้วย Adjustable Wall สั่งปรับเปลี่ยนได้ตามใจ พร้อมช่วงเวลาพักผ่อนคลายด้วย สระว่ายน้ำเพื่อครอบครัว Clubhouse สวนสาธารณะ พร้อมกับทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่ ด้วยบรรยากาศร่มรื่นสุดสายตา 



ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com


วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นับว่าสวนในบ้านเดี่ยว ให้มีฮวงจุ้ยที่ดีงาม

จัดสวนในบ้านเดี่ยว ให้มีฮวงจุ้ยที่ดี





หลายครั้งเวลาที่ผมได้ให้คำปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยมักจักได้รับคำถามว่าภายนอกบ้าน, อาคาร, สำนักงานนั้น จำเป็นจักต้องดูฮวงจุ้ยประกอบด้วยไม่ก็ไม่ก็ไม่ ก็เพราะว่าบางครั้งเราจักนึกกันไปว่าเฉพาะภายในของสถานที่พักอาศัยเท่านั้นจึงจักมีผลกับเรา แต่แท้ครันแล้ว การจัดฮวงจุ้ยที่ดีเราจักต้องเกริ่นตั้งแต่ภายนอกของตัวบ้านหรือไม่อาคารของเราจักรอบรู้ดึงเอากระแสพลังที่ดีให้เข้ามาหาเราได้มากขนาดไหน จนซินแสฮวงจุ้ยหลายๆ ท่านกล่าวไว้ว่าสมมตชัยภูมิภายนอกไม่ดีพอก็ไม่จำเป็นต้อง พิจารณาภายในบ้านไม่ก็อาคารนั้นๆ

ดังนั้นสวนในบ้านเดี่ยวใหม่จึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการจักพิจารณาฮวงจุ้ยที่ดี เพราะว่าว่าถ้าบ้านของเราไม่มีสวน เช่น เป็นอาคารพาณิชย์ไม่ใช่หรือคอนโดมิเนียมมีสภาพภายนอกที่ลักษณะฮวงจุ้ยไม่ดี การแก้ไขจะทำได้ทำได้ยาก แต่ถ้าเป็นบ้านไม่ก็ไม่ก็อาคารที่มีพื้นที่ด้านนอกเป็นของตนเอง ไม่ใช่หรือว่ามีสวนอยู่ภายในที่ดินตัวเอง เราก็รอบรู้จักใช้ในการปรับปรุงฮวงจุ้ยภายนอกของตัวบ้านเหรออาคารให้ดีขึ้นได้ แม้ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกที่ดินของเราอาจจักมีฮวงจุ้ยที่ไม่ดีนั่นเอง เพราะลักษณะฮวงจุ้ยของสวนที่ดีมีดังถัดจากนั้นนี้
สวนบริเวณหน้าบ้าน

ควรจะโปร่งโล่งเป็นลานสะสมพลังให้กับตัวบ้าน ไม่มีต้นไม้ใหญ่กีดขวางเพราะเฉพาะบริเวณหน้าประตูทางเข้าของตัวบ้าน ก็ก็เพราะว่าว่าจักถือว่าขวางกระแสพลังไหลเข้าบ้าน สมมตต้องการให้มีต้นไม้เน้นเป็นต้นไม้พุ่มลักษณะไม่สูงมาก หรือไม่ก็ไม่ก็ต่างว่าต้องการมีต้นไม้ใหญ่จริงๆๆๆ ก็ควรปลูกอยู่ที่หัวมุมของสวนหน้าบ้าน เพื่อจักได้ไม่ขวางกระแสพลังที่จะส่งเข้าบ้าน มากไปกว่านั้นถ้าสมมติหน้าบ้านไม่ใช่หรือไม่ก็อาคารของท่านพบกับองศาทิศทางที่ดี เป็นทิศทางที่เสริมโชคลาภของการจัดฮวงจุ้ยในยุคที่ 8 (พ.ศ.2547 - 2567) การทำบ่อน้ำพุ, น้ำล้น, น้ำตก ไม่ก็บ่อปลาเสริมก็จักยิ่งช่วยกระตุ้นพลังดีให้ไหลเวียนตลอดเวลา ยิ่งเสริมความเป็นมงคลมากขึ้นไปอีกด้วย พร้อมกับสมมุติบ้านของท่านอยู่ในโครงการจัดสรรไม่ใช่ไม่ใช่หรือทำเลที่เป็นส่วนตัวพร้อมด้วยปลอดภัย การทำรั้วหน้าบ้านที่ดีควรมีสัดส่วนของความโปร่งโล่งอยู่พอสมควรไม่ควรทำรั้วทึบแน่นจนเกินไป เพื่อจักทำให้กระแสพลังดีจากภายนอกยิ่งส่งพลังเข้ามาภายในตัวที่ดินของเราได้สะดวก

สวนบริเวณข้างบ้าน
ควรโอบตัวที่ดินของเราไว้ทั้งสองด้าน เพื่อช่วยเก็บกระแสพลังไว้ภายในตัวบ้านใช่ไหมอาคารของเรา เช่นการทำรั้วบริเวณด้านข้างบ้านทึบกว่าบริเวณรั้วด้านหน้าบ้าน การปลูกต้นไม้ทรงสูงตามแนวสวนด้านข้างบ้านให้สูงกว่ากำแพงรั้วเล็กน้อย จักช่วยให้บ้านหรือไม่อาคารนั้นเก็บกระแสพลังที่ไหลเข้ามาจากบริเวณสวนหน้าบ้านได้ดีมากขึ้นไปอีก ก็เพราะว่าการดูฮวงจุ้ยในหลักชัยภูมิเบื้องต้นก็จักมีความเชื่อว่า ทิศด้านซ้ายมือของบ้านทันทีที่เรายืนจากในบ้านแล้วหันหน้าออกจักเป็นทิศที่เสริม ฝ่ายชาย ซินแสหลายท่านเรียกว่าทิศมังกรเขียว ถ้าลักษณะของการจัดสวนไม่ก็ไม่ก็การปลูกต้นไม้ของสวนในฝั่งนี้โดดเด่นดูมีพลังก็จักเสริมให้สมาชิกที่เป็นผู้ชายในบ้านโดดเด่น หาเงินหาทองได้เก่ง ในทางกลับกันถ้าการจัดสวนในทิศด้านขวามือของบ้านเด่นจักเป็นทิศที่เสริมฝ่ายหญิง ไม่ก็ที่ซินแสหลายท่านเรียกว่าทิศเสือขาว ก็จักทำให้สมาชิกที่เป็นผู้หญิงในบ้านโดดเด่นมีโชคลาภ
สวนบริเวณหลังบ้าน
ควรที่จะดูหนักแน่นมั่งคง เพราะว่าในตามศาสตร์ฮวงจุ้ยมองว่าข้างหลังตกแต่งบ้านเดี่ยวเป็นทิศบารมีของเจ้าบ้าน นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นจุดเก็บพลังให้กับบ้านใช่ไหมอาคารของท่านอีกด้วย ดังนั้นการจัดสวนลักษณะที่เป็นสวนหินพยายามเระบือกให้ดูสวยงามเรียบรื่นจะยิ่งเป็นมงคล นอกจากนั้นการทำรั้วด้านหลังบ้านหรือว่าอาคารสูงกว่าด้านอื่นๆ ก็จักยิ่งช่วยเก็บพลังให้กับบ้านของท่านได้ เหรอจักช่วยปลูกต้นไม้สูงตามแนวรั้วด้านหลังบ้าน เหรอว่าตีระแนงเสริมกำแพงด้านหลังบ้านให้สูงมากขึ้นล้วนแล้วแต่ช่วยในการเก็บกระแสพลังให้บ้านของท่านได้เช่นเดียวกัน ต้องระวังการต่อเติมหลังบ้านจนทึบตันกระแสลมไหลเวียนไม่ได้ จักทำให้บ้านของท่านไม่มีโชคเสริม ไม่มีธุรกิจในอนาคต การเก็บข้าวของหลังบ้านจนสกปรกก็จะทำให้บารมีเสียหาย ผู้คนไม่เคารพนับถือ

สิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นหลักการ เบื้องต้นของการจัดสวนของคุณให้เป็นมงคลตามหลังฮวงจุ้ยครับ แต่ในหลักวิชาการชั้นสูงนั้นท่านควรได้รับการประเมินจากซินที่มีประสบการณ์ อย่างละเอียด ทั้งจากวันเดือนปี เวลาเกิดของท่านพร้อมด้วยสมาชิกภายในบ้าน ร่วมกับการวัดองศาทิศทางของบ้านใช่ไหมอาคารของท่านโดยละเอียด เพื่อจักได้ทราบตำแหน่งกับทิศทางที่เสริมรูปดวงของท่านพร้อมด้วยสมาชิกภายในบ้าน ก็จักช่วยในการจัดฮวงจุ้ยสวนในบ้านของท่านได้ละเอียดมากขึ้น ยิ่งส่งผลให้บ้านหรือว่าอาคารของท่านมีฮวงจุ้ยที่ดี เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นไปอีกครับ





เดอะ แพลนท์ เอสทีคพัฒนาการ




เพราะว่าคุณมองเห็นอนาคตก่อนใคร บ้านสไตล์โมเดิร์น ทำเลกลางใจเมือง ใกล้ทองหล่อเท่า 10 นาที





ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com/




มีสิงสู่จริง บ้านเดี่ยวรังสรรค์จากเศษขยะ สร้างสรรค์ รักษ์โลกมนุษย์

มีอยู่แน่แท้ บ้านเดี่ยว จากเศษขยะ  สร้างสรรค์ และ รักษ์โลก




ขยะ แน่นอนมันคือสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ ของเหร่ำเลื่องลือใช้ เหรอ ทิ้ง นั่นเอง แต่ก็มีหลายๆ คนหยิบขยะมาสร้างสรรค์เป็นของใช้ ของประดับบ้าน รวมถึงบางคนคิดการใหญ่ นำขยะไม่ก็ว่าของเหลือใช้มาสร้าง บ้าน Sanook!Home เห็นไอเดียสร้างบ้านจากขยะเป็นไอเดียน่าสนใจ เลยตะโกรงเอามาแชร์ ไปเปิดบ้านกันเลยค่ะ




1.เราอาจต้องเรียกบ้านเดี่ยวใหม่หลังนี้ว่า “บ้านชิ้นเล็กชิ้นน้อย” ตามที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นเพื่องานวันสิ่งแวดล้อมโลกในปี 2005 ที่ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มสถาปนิก ศิลปิน พนักงานออฟฟิศ พร้อมกับเหล่าวิศวกรเมืองซานฟรานซิสโก เพราะว่าพวกเขาใช้เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย พร้อมทั้งวัสดุเหระบือใช้มาร่วมกันสร้างสรรค์ ภาพเพราะว่า Scrap House







2. Dan Phillips  สร้างบ้านหลังใหญ่โต แต่ใช้เงินทุนต่ำหลังนี้ขึ้นมา เพราะว่ามันเป็นบ้านที่สร้างขึ้นจากวัสดุเหละบือใช้ ระดับกรอบรูปภาพ  ภาพเพราะว่า Michael Stravato for The New York Times.




3.บ้านจากกระป๋องเบียร์หลังนี้ ถูกสร้างขึ้นก็เพราะว่า John Milkovisch  เหตุก็เพราะว่าบ้านหลังนี้ทำขึ้นจากกระป๋องเบียร์ทำให้บ้านหลังนี้จักมีกลิ่นเบียร์คละคลุ้ง ทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมด้วย





4.ตกแต่งบ้านเดี่ยวจากขวดเหโจษใช้จำนวนมากกว่า 25,000 ใบ ที่สร้างขึ้นเพราะ  Édouard T.





5. “ปราสาทขยะ”  ในรัฐวอชิงตัน ถูกสร้างขึ้นจากเศษวัสดุเหฟุ้งเฟื่องใช้ ซึ่งผู้สร้างคือคุณครูหัวใจศิลปิน Victor Moore เขาสร้างขึ้นเพื่อทำวิทยานิพนธ์ MFA ในปี 1970 ซึ่งใช้งบคาดคะเนไปปาง 500 เหรียญเท่านั้น






6.บ้านที่มีโครงสร้างจากขวดพลาสติก PET ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าต้องการโปรโมทเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมกับการรับผิดชอบต่อสังคม แต่เป็นบ้านที่ศักยเข้าไปอยู่อาศัยได้นัก โดยบ้านหลังนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพราะว่าครอบครัว  Alfredo Santa





7. บ้านเดี่ยวนหลังนี้สร้างขึ้นจากยุ้งข้าวจำนวน  2  หลัง เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ใน Woodland  ภายในจักสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนด้วยความทันระยะเวลา ด้วยกันความหรูหรา





8.คราว Bodan Litnianski อพยพออกจากยูเครนไปยังประเทศฝรั่งเศสในปี 1930 เขายักเข้าไปอยู่ในบ้านเก่าด้วยกันตั้งต้นปรับปรุงบ้านหลังนั้นใหม่ด้วยวัสดุหลากหลายทั้ง เปร่ำฟุ้งเฟื่องกหอย แก้ว ของเล่น กับของอะไรก็ตามเท่าที่เขาหาได้




9. แทบจักไม่เชื่อเลยใช่ไหมคะว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านรีไซเคิล เกี่ยวกับ Villa Welpeloo ในเมือง Enschede  ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นวิลล่าที่ถูกสร้างขึ้นเพราะว่าว่าสถาปนิก Jan Jongert ด้วยกัน Jeroen Bergsma พวกเขาช่วยกันหาวัสดุเศษเล็กเศษน้อย กับวัสดุเหเลื่องใช้ก่อนที่จักสร้างบ้าน ทั้งเฟรมภาพโลหะที่ทิ้งแล้ว วัสดุจากโรงงานทอผ้า เพราะด้านหน้าของตึกใช้ไม้จากม้วนเก็บสายไฟฟ้ามาก่อสร้าง


บ้านพฤกษานารา-ชัยพฤกษ์-2-จอมเทียน




พอความร่มรื่นของแมกไม้ผสานกับความรื่นรมย์ของดีไซน์บ้านเดี่ยวแบบโมเดิร์นทรอปิคอล ช่วยให้คุณสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสีเขียวจากร่มไม้ที่รายล้อมให้ธรรมชาติโอบล้อมคุณอย่างใกล้ชิดภายใต้บรรยากาศโมเดิร์น จนคุณอาจเผลอ วางธุระใจไปกับผืนน้ำด้วยกันธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับคงความรู้สึกปลอดภัยไปทุกนาทีกับระบบ Double Security 

ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บ้านใหม่ : 12 ข้อควรระวังรู้ไว้ ถ้าหากไฟไหม้บ้าน

12 ข้อควรระวังที่ควรรู้ไว้ สมมตเกิดไฟไหม้บ้าน


12

แอดมินได้เข้าใจถึงอารมณ์ของการอบรมหนีไฟของบริษัทต่างๆมา แล้วครั้นที่จะไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากพนักงานในบริษัทมากนักด้วย นั่นเป็นเพราะว่าส่วนหนึ่งคิดว่าไม่ตะโกรงจะเสียเวลาด้วย  กับอีกส่วนหนึ่งคิดว่าเรื่อง   ไฟไหม้   ไกลตัวบ้านใหม่ แต่ว่าแท้ที่แน่แท้แล้วจนกระทั่งเกิดไฟไหม้ใกล้ตัวกว่าที่คิดนะค่ะ
Sanook! Home ได้รวบรวมข้อมูลมาด้วยกันจักให้ความรู้เรื่องไฟไหม้จากคุณนู๋ปลาไหลมาด้วยค่ะ ได้มาจากเว็บไซต์ พันทิปดอทคอมมาฝากทุกคนค่ะ ซึ่งก็ว่าแล้วตามคุณนู๋ปลาไหลกันไปเลยนะค่ะ
มาสวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกคน แล้วในวันนี้เราจักโชคดีมีโอกาสได้อบรมเรื่องอัคคีภัยของบริษัท ซึ่งเราก็ได้คิดว่าในภาคปฏิบัติอพยพหนีไฟ เพื่อบริษัทใหญ่ๆ ใครก็มักจักมีการจัดอบรมพร้อมกับซ้อมกันเป็นปกติ แต่ว่าในภาคทฤษฏีคนมักไม่ได้อบรมกันครบตามไปที่กฏหมายกำหนดแน่นอน ซึ่งเหตุด้วยบริษัทเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วค่ะ แล้วคนก็ไปฟังกันน้อยมาก แถมคนที่ไปฟังซึ่งก็ยังแว่บไปแว่บมากลับไปนั่งทำงานด้วย เลยทำให้ฟังกันบ้างแล้วก็ไม่ฟังกันบ้าง

ซึ่งขอกระซิบว่าคนอายุแยะๆ นี่แหละ ที่จะไม่ชอบร่วมกิจกรรมมักส่งเด็กๆ หรือว่าน้องเล็กไปแทน แล้วดังนั้นถ้าน้องๆ คนไหนมีคุณพ่อคุณแม่ได้ไปอ่านให้กับคุณพ่อคุณแม่ฟังนะค่ะ ก็เพราะว่าว่าต่างว่าเกิดขึ้นจริงๆๆ ท่านจะได้พอนึกขึ้นได้ว่าลูกเคยพูดไว้ ถึงตัวท่านแล้วไม่ได้เข้าอบรมกับทางบริษัทก็ตามที

ซึ่งดังนั้นแล้วเราก็จึงหิวให้มาแชร์ให้ได้เกร็ดความรู้ที่ได้มาจากพี่ๆ จากพนักงานดับเพลิงใน โครงการบ้านใหม่ ส่วนใครที่รู้อยู่แล้วถือว่ามาทวนกันด้วยนะคะ ในซึ่งกระทู้นี้เราคงไม่ได้อธิบายเรื่องการเกิดความร้อนครับ ควันไฟ แบบที่เราไปฟัง เพราะว่าว่าถ้าเราจำไม่ค่อยได้ พร้อมด้วยอธิบายไม่ค่อยถูกด้วย
แต่ว่าจักให้แชร์เรื่องควรจักรู้ที่อยู่ใกล้ๆตัวด้วยค่ะ 
1.การเกิดไฟไหม้มีทั้งหมดรวม 4 กระบวนการ ความร้อน คายไอ เปลี่ยนสี พร้อมด้วยเกิดลุกไหม้
ในความร้อน ของวัตถุนั้นก็จะต้องโดนความร้อนหรือไม่ก็ได้ความรับความร้อนนั้นเองนะค่ะ
คายไอ พร้อมทั้งครั้นได้รับความร้อนจนถึงขั้นอิ่มตัว แล้ววัตถุนั้นก็จักเกิดการคายไอระเหยออกมา ใช่ไหมเพราะว่าวัตถุที่คายไอตลอดเวลาเช่นน้ำมันเบนซิล แล้วพอนึกภาพเกิดบิดเบี้ยวทันทีที่เรามองน้ำมันได้มั้ยเลยคะ แบบนั้นเลย
เปลี่ยนสี ให้เปลี่ยนวัตถุจากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่งด้วย ตัวอย่างเช่น จากขาว ไป หลือง ไป น้ำตาล ไป ดำ
ลุกไหม้ด้วย  ซึ่งเพราะว่าอันนี้ยังทุกคนคงรู้จักกันดีค่ะ 
2.ถ้าสมมติว่ารู้ว่าเกิดไฟไหม้มา ควรจักตัดไฟเป็นอันดับแรก แล้วหลายคนอาจจะไม่ทันฉุกคิดค่ะ ซึ่งเวลาเราแตกตื่น เราจะพยายามรักษาทรัพย์สินด้วยการสาดน้ำ หรือไม่ไม่จักหาอะไรมาดับไฟ ซึ่งเราก็รู้กันดีว่าน้ำพร้อมด้วยไฟฟ้าเป็นของที่ไม่ควรอยู่คู่กัน ยิ่งสาดน้ำใส่ไฟฟ้าด้วย ยิ่งอาจจักเพิ่มความเสียหาย
3.จงอย่าชะล่าใจไปว่าถ้าไม่มีไฟเกิดจะไม่มีความร้อน!! ให้สมมติว่าข้างห้อง ไม่ใช่หรือชั้นบน หรือว่าชั้นล่างกำลังลุกไหม้ ไฟยังไม่มาค่ะ แต่ความร้อนมาไปแล้วแน่นอนค่ะ สิ่งที่ช่วยชีวิตคุณได้ก็คือ กระดาษ อันนี้แบบใกล้ตัวในสำนักงานนะคะเป็นแน่แท้ๆ คงมีแบบอื่นไม่ใช่หรือแต่ว่า
ทำไมกระดาษถึงช่วยชีวิตได้ล่ะงงละสิ ในเหตุผลคือกระดาษจักทำปฏิกริยา คายไอ แล้วเกิดคุณจะเห็นไอระเหยจากกระดาษ อนุมานอุณหภูมิได้ทันทีว่า 250-300 องศาเซลเซียลเลยทีเดียว ซึ่งถึงคุณไม่ตายก็เพราะว่าไฟ แต่คุณจะสลบด้วยความร้อน กับถ้าผิวหนังจักโดนความร้อนเบิร์นเหมือนไก่ย่างด้วย
4.แล้วถ้าต่างว่าเราจำเป็นต้องหนีหรือได้ทะลวงในจุดเพลิงไหม้ เราควรทำยังไง!! วิธีการคือคว้าทุกสิ่งอย่างที่มี ในผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูที่นอน ผ้าคลุมเตียง คลุมตัวเอง ไปให้ห่อตัวให้เป็นบ๊ะจ่างแต่อย่ารุ่มร่าม เพราะว่าถ้าสะดุดล้มอันตรายมาก แล้ววิ่งให้เร็วสุดชีวิตไปที่ทางออกด้วย และยังที่สำคัญจงเลือกระฉ่อนกทางที่สั้นที่สุดแต่ปลอดภัยที่สุดด้วย ในวิธีนี้ต่างว่าอยู่ในอุณหภูมิ 300 องศา ระยะทางไม่ไกลมากสักไป 6-7 เมตร ครับ
5.ซึ่งไฟจะไหม้ในห้องทั้งห้องโดยคาดว่า 5 นาที เกิดแล้วอุณหภูมิอยู่ที่ 800 องศา เนื่องด้วยห้องสำนักงาน ถ้าแม้มีเชื้อเพลิงน้ำมัน แก๊ส อุณหภูมิก็อาจจักอยู่ได้ที่พันองศาในสองนาทีที่โหมโรงไหม้ แล้วควันจักทำให้หายใจไม่ออก พร้อมกับให้กดตัวต่ำลงตราบใดตั้งต้นเข้านาทีที่สองด้วย หใ้จงหนีให้ไว แต่อย่าอาลัยอาวรณ์เก็บข้าวของห่วงนู่นห่วงนี่ ท่องไว้ด้วยค่ะ ก็เพราะว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ว่าไว้ชีวิตคุณมีแค่ครั้งเดียว ตายแล้วก็ตายเลยค่ะ

6.ถ้าถ้าหากเกิดเพลิงไหม้ในห้องใดห้องหนึ่ง ไปจงปิดหน้าต่าง ด้วยกันให้ปิดประตูขังไฟ ความเสียหายจะเกิดขึ้นในจุดที่เล็กลง พร้อมกับก็ง่ายต่อการดับไฟของเจ้าหน้าที่พนักงานด้วยนะค่ะ ในนอกจากนี้คุณไม่ต้องสิ้นเปเลื่องงจากค่าเสียหายกับโถงทางเดินพร้อมด้วยห้องอื่นๆ ให้จำไว้ไฟไหม้คราวไหร่ปิดประตูด้วย แล้วมีเวลาให้วิ่งไปปิดหน้าต่างให้เป็นกองที่สุดแล้วหนี!!! ไม่ก็ต้องล๊อคนะคะเดี๋ยวพนักงานเข้าไปดับเพลิงทางไปประตูไม่ได้ กับถ้าสมมติว่าไม่ได้เปิดหน้าต่างระบายอากาศ กรุณาให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ก็เพราะว่าเขาจะได้ระวังตัวตอนเปิดประตูไปดับไฟ ท่องไว้ ให้ว่าพนักงานดับเพลิงก็คน มีลูกเมียคอยอยู่เหมือนคุณได้
7.ซึ่งหลังมือนั้นคือทางรอด ไปเรื่องง่ายๆ ที่หลายๆ คนอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าทวนกัน แม้มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน หลังมือเท่านั้นที่ไว้คลำ แล้วจงอย่าใช้กับฝ่ามือเพราะว่าเคยชินล่ะ 
8.แล้วพอคุณหนีไฟจนเจอบันไดหนีไฟแล้วด้วย ก็จงปิดประตูจนถึงหนีออกมาแล้ว!! แต่ก็ว่าอย่าทะลึ่งล็อคนะ อย่าเป็นคนดีผิดเวลาแล้วแบบกลัวว่าคนจะตามมาทีหลังที่จะไม่รู้ว่าประตูหนีไฟอยู่ตรงนี้นะเป็นอันขาดนะค่ะ
ในข้อควรรู้คือจนกระทั่งบันไดหนีไฟเปิดอ้าด้วย ควันพร้อมด้วยไฟก็เหมือนน้ำ ปางใดคุณเผื่อแผ่ ควันและไฟก็จักเผื่อแผ่ แล้วจะไหลไปเหมือนธารน้ำลุกไหม้ทางหนีไฟครับ ให้คุณลองนึกภาพนะคะไฟไหม้ตึก 10 ชั้น ซึ่งต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น5 คุณซึ่งอยู่ชั้น7 ก็ต้องหนีไฟลงมาชั้นลง บังเอิญมากเลยค่ะ แล้วมีพ่อพระใจดีกลัวเพื่อนหนีไฟที่ชั้น 5 จะให้มองไม่เห็นทางออกเพราะว่าว่าควันอันหนาทึบ แน่นอนสิค่ะ ซึ่งคุณที่อยู่ชั้น 7 เปิดประตูหนีไฟไปเจอประตูไฟนรกด้วย ควันเขม่าลอยฟุ้ง ด้วยกันแออัดในช่องหนีไปไฟของตึก
ซึ่งถ้าเกิดว่าคุณคิดว่าทางหนีไฟที่มีควันอบอวลนั้นยังใช้งานให้คุณขึ้นไปข้างบนดาดฟ้าได้มั้ยค่ะ ถ้าสมมติว่าเกิดโชคดีอาจจักทัน แต่ถ้าไม่กันล่ะ? คุณก็จักขาดอากาศก็เพราะว่าคุณเผาผลาญออกซิเจน ด้วยกันให้ควันไฟยังดึงออกซิเจนไปจากคุณ ต่อให้คุณไม่โดนกับไฟคลอกตายก็ขาดอากาศตายอยู่ดีค่ะ อีกข้อควรรู้อีกอย่างในข้อแปดคือประตูหนีไฟที่เราจักเห็นกันเป็นเหล็กหนาๆนั้น ไปอาจจักทนความร้อนได้สองชั่วโมง ถ้าแม้คุณรู้จักใช้มันอย่างถูกต้อง ทุกคนที่ได้ใช้ทางหนีไฟมีโอกาสรอดแน่นอนครับ
9. เพื่อห้องน้ำคือกับดัก เพราะว่าว่ามันคือมัจุราชที่แสนดี มันจักทำให้เรารู้สึกดีรู้สึกปลอดภัย แต่ก่อนจักทำให้เราหมดทางรอดและตายอย่างทรมานด้วย ทำไมน่ะรึ ก็เพราะว่าการที่คุณหนีเข้าห้องน้ำแปลว่าด้านนอกกำลังลุกไหม้อย่างน่ากลัว พร้อมกับทำให้พนักงานดับเพลิงไม่อาจจักจัคุมเพลิงแล้วฝ่าไปช่วยคุณได้ และหรือไม่ยังติดปัญหาอะไรบางอย่างทำให้ยังมาไม่ถึงคุณ เรามักคิดว่า ไปจักเข้าห้องน้ำเพราะอย่างน้อยก็มีน้ำล่ะว่ะ แต่ในความเป็นแท้จริงจนถึงคุณกำลังรอ ไฟก็กำลังไหม้วงกบพร้อมทั้งประตูด้วยด้วย
แล้วถ้าถ้าประตูทำมาจากไม้จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งแล้วไม้ก็จะยืดหดโก่งตัวผิดรูป พร้อมทั้งก็ขังคุณไว้ในห้อง ควันไฟที่สะสมไอร้อน จักพวยพุ่งเข้ามาตามไปตามรอยแตกของไม้ด้วย เพราะด้วยตอนนั้นคุณจักทุบจะพังประตูก็ทำไม่ได้ ก็จะเอาน้ำดับควันก็ทำไม่ได้ แล้วแม้ประตูกับวงกบเป็นพลาสติกพีวีซีล่ะก็ แล้วอย่างที่เรารู้กันคือ พลาสติกโดนความร้อนแล้วจักละลาย ได้คาดว่าชะตากรรมไม่ต่างกันเลย
10.แล้วอย่าเป็นคนช่างเสียดาย คุณมักจะเห็นคนแก่ๆ ที่ชอบเก็บสมบัติ ซ่อมแล้วซ่อมอีก ไม่ใช่หรือว่ามันจักพังไม่พังแหล่ก็ยังคงใช้เพราะความเสียดายเงิน แล้วหรืองกเงินซื้อของถูกๆ ได้พี่ๆ พนักงานอื้นว่าพักหลังๆนี้ ที่เศรษฐกิจไม่ดี เหตุไฟฟ้าสำคัญเกิดจากเครื่องไฟฟ้าท่วมท้นมากด้วย เพราะว่าว่าไปของไม่ได้มาตราฐานเหรอมาตราฐานต่ำ ดังนั้นลงทุนกันสักนิดเพื่อชีวิตที่ปลอดภัยค่ะ
11.การใช้น้ำ ดับ เกิด น้ำมัน ไป เละ
ใช้น้ำ ดับ ไฟฟ้า ไป เละ
ใช้น้ำ ดับ แก๊ส ไป OK
ใช้น้ำ ดับ เชือก กระดาษ หญ้า ผ้า ไป OK
12.ในเหตุการณ์นี้เกิดก็ไม่บ่อย แต่ว่าหากเกิดครั้นไหร่ก็ภาวนาหาพ่อแก้วแม่แก้วเลยว่าซวยแน่ๆๆเลย เพราะว่านั่นคือรถแก๊สคว่ำ!! หลายคนอาจจักเกิดไม่ทันเหตุการณ์เลย ทำไมรถแก๊สระเบิดที่แยกเพชรบุรี แต่เราเกิดไม่ทันนะคะ ร้อนตัว ไว้ก่อน  แล้วใครเกิดไม่ทันหาได้ข่าวอ่านได้ค่ะ มีรำลึกกันทุกปี เล่าวนกันซ้ำๆด้วย
เพราะข้อนี้จะมาบ่งว่าแก๊สรั่วควรจะทำยังไง ข้อสำคัญคือ 4ห้าม เลย ก็คือ ห้ามถอด ห้ามเสียบ ห้ามเปิด และก็ห้ามปิด ทุกครั้งที่เราใช้ไฟฟ้าไปการเสียบปลั๊กด้วย ถอดปลั๊ก ด้วยกันเหรอแม้ว่าปลั๊กเสียบอยู่จักกดปิด หรือจะกดเปิด จะมีประกายไฟ ซึ่งสำคัญมากๆด้วยเลยครับ
เพราะว่าว่าแก๊สได้นักค้นหาให้ประกายไฟด้วยเป็นตัวฉกาจเลย มันค้นเก่ง กับทำให้มันก็เจอเสมอด้วยสิ สมมติว่าถ้าความซวยมาเยือนคุณ กับรถแก๊สเกิดคว่ำอยู่และคุณเป็นรถคันที่ขับถัดมาด้วย แล้วเกิดสถานการณ์คือเครื่องคุณดับ!! อย่าพยายามสตาร์ทรถเป็นอันขาดครับ
ก็เพราะว่าว่านั่นคือพิธีกรรมไปสำหรับการเรียกมัจจุราช อย่าห่วงรถ แล้วให้คุณรีบเก็บของแล้วออกจากรถ เคาะเจรจาเพื่อนร่วมทางให้รีบออกมาครับ
แล้วก็อย่าคิดนะว่าจะขับรถหนีได้ ถ้าไปสมมติเกิดรถดับคือต้องทิ้งรถแล้วค่ะ ถ้าหากมีรถคันใดคันหนึ่งเกิดลองสตาร์ท หรือว่า สมมติว่าคันที่ถัดมาเป็นคันที่สิบด้วย แล้วด้วยว่าประกายไฟที่เกิดการสปาร์คเพื่อให้รถติดเครื่องจะดึงดูดแก๊สให้เข้าหาแล้วไหม้รถให้คุณทันทีพร้อมด้วยที่โชคร้ายด้วยคือเพราะด้วยไฟจะวิ่งดูดไปยังต้นทางคือรถแก๊สที่คว่ำ แล้วคราวไฟพร้อม แก๊สพร้อม อากาศพร้อมกับออกซิเจนพร้อม ให้กับท่องไว้ค่ะโกโก้ครั้นซ์ยังเรียกพ่อ แล้วเพื่อนร่วมทางคันที่สามที่สี่ที่กำลังวิ่งย้อนออกมา เละค่ะ ไม่เหละบือ ไม่ศักยคุมเพลิงได้แล้วเลยค่ะ

ด้วยกันก็อีกสมมตินะคะ ให้เรานึกภาพตามกัน เดี๋ยวนี้โลกโซเซียล อะไรๆ ก็กระหายแชร์ตะกลามบรรยายด้วย คุณก็คันปากมุ่งหมายเผยพ่อแม่พี่น้องเพื่อนพ้องทั้งหลาย แต่ง่าคุณรู้มั้ย ว่าได้โทรศัพท์ที่คุณถือในขณะมีแก๊สลอยอยู่รอบตัวด้วย ซึ่งมันไม่ต่างกับบ่วงที่กำลังคล้องคอคุณ พร้อมกับแล้วไม่ต่างกับมีดหรือปืนที่จ่อขมับคุณอยู่
ซึ่งด้วยโทรศัพท์มือถืออยู่ยังไงกับก็ให้อยู่อย่างนั้นไปเลย แล้วอย่าไปยุ่งกับมันจนกว่าจะแน่ใจว่าสถานที่ที่คุณอยู่ ซึ่งไม่มีมวลสารแก๊สอันตรายแล้ว ถ้าถ้่สมมตอยากรู้ว่าผลลัพธ์เป็นยังไง ก็ว่าเหมือนข้างบนค่ะ โกโก้ครั้นซ์เรียกพ่อเลย

พร้อมกับก็จะขอฝากให้กับคนไปที่ขับรถเติมแก๊สด้วยว่าก็เพราะว่าเห็นไม่ค่อยสนใจกันเลยเท่าไหร่กับป้ายห้ามใช้มือถือ รอไม่รู้ว่าทำไม ไม่เกิดเคยอ่านข่าวว่าโทรศัพท์มือถือทำปั้มแก๊สระเบิดหรอค่ะ
แล้วก่อนคุณจักมักง่ายไม่สนใจกับ บ้านใหม่พร้อมอยู่ กรุณาถามคนอื่นด้วยนะคะว่า ตัวเองๆ เราก็รู้นะ เราไม่ได้เกิดวันเดียวกัน แต่ว่าตัวเองประสงค์ตายในภายวันเดียวกันกับเราป่ะ มีคนเคยเตือนแล้วด้วยนะค่ะ 

ดีไลท์-วงแหวนฯ-วัชรพล




ฉีกกรอบเดิม สู่ความทันคราว กับโครงการบ้านเดี่ยว ดีไซน์ Modern ออกแบบให้ลงตัวทุกจังหวะการใช้ชีวิต ให้คุณใช้สอยทุกพื้นที่ได้สูงสุดกว่าใคร หลุดกรอบด้วย Adjustable wall สั่งปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เดินทางแบบคนทันกาลเวลา เท่า 5 นาที จากสถานีรถไฟฟ้าคูคต อุ่นใจเหนือ ใครด้วย Smart Security Home System ขยายวงกว้างความปลอดภัย คลอบคลุมทั่วทั้งโครงการ พลาดไม่ได้กับคลับเฮาส์ สวนสาธารณะ ฟิตเนส สระว่ายน้ำด้วยกันบรรยากาศร่มรื่นสุดสายตา คุณพร้อมหรือไม่ยัง? ที่จะฉีกตัวเอง สู่ความ Chic กับขีดสุดของการออกแบบ ที่พร้อมให้คุณมาเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ดีไลท์ วงแหวนฯ – วัชรพล 


ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com/

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 วิธีทำให้ มัญจกะนอนบ้านเดี่ยว อบอุ่นที่สุดในพื้นโลก

10 วิธีทำให้ เตียงนอน อบอุ่นที่สุดในโลก เหมาะกับหน้าหนาวแบบนี้ 




ตกแต่งบ้านเดี่ยว อากาศเย็นสบายในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ใครๆ ก็หิวคุดตัวอยู่ในผ้าห่มอยู่ในบ้านเดี่ยว ไม่ต้องประสงค์ตื่น Sanook! Home เลยตะกลามมาเติมเชื้ออารมณ์ขี้เกียจๆ ของฤดูหนาว ให้ทุกคนได้เนรมิตเตียงนอนของตัวเองให้กลายเป็นสถานที่ที่แสนอบอุ่น น่านอน มากยิ่งขึ้น รับรองเตียงนอนตามไอเดียของ Sanook! Home ต้องทำให้ใครหลายๆ คนชอบแน่ๆ




1.ประดับไฟราวไว้เหนือเตียงนอน เพิ่มความมหัศจรรย์เล็กๆ น้อยๆ ให้ขณะเข้านอน เพราะว่าอาจจักแขวนประดับบริเวณผ้าม่านของห้องนอน ให้อารมณ์คล้ายวันคริสต์มาสที่ใกล้จักถึงนี้ได้ดีเหมือนกัน
2.คลุมเตียงด้วยปลอกคลุมขนาดใหญ่ที่อาจจักเกิดจากการถักนิตติ้ง ไหมพรม ช่วยทำให้เตียงนอนนั้นน่านอนพร้อมทั้งอบอุ่นขึ้นในช่วงอุณหภูมิลดต่ำลง
3.การเพิ่มจำนวนหมอนลงบนเตียงนอน จักช่วยทำให้เตียงนอนดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น




4.ถ้าคุณมีทักษะเกี่ยวกับการเย็บผ้า ลองเปลี่ยนปลอกหมอน เพราะใช้วัสดุที่เป็นขนปุกปุยนิ่มๆ เพิ่มบรรยากาศความอบอุ่น พร้อมด้วยทำให้รู้สึกใคร่ได้นอนอย่างผ่อนคลาย
5.การใส่หัวเตียงเพิ่มเข้ากับที่นอนทำให้เตียงนอนดูอบอุ่นขึ้นมาก
6.ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนครันๆๆ ตะกลามแนะนำให้เเล่าโจษจันกผ้าปูที่นอนที่ทำจากผ้าลินินแทนผ้าคอตตอนที่เคยใช้





7.ประดิษฐ์กำแพงกั้นเตียงนอนด้วยตัวเอง เพราะว่าว่าแขวนผ้าเนื้อโปร่งบาง จากเพดาน
8.ถ้าเตียงหรือไม่ก็ห้องนอนของคุณมีขนาดเล็ก ลองติดผ้าม่านกั้นบริเวณเตียงนอนซะเลย จักทำให้มุมๆ นั้นดูอบอุ่นน่านอน
9.เก็บที่นอนพร้อมทั้งเก็บเตียงของคุณทุกๆ วัน
10.ถ้าแม้คุณลองทำทั้งหมดมาแล้ว อีกวิธีสุดท้ายคือการหาใครสักคนมานอนข้างๆ เหมือนเท่านี้ก็อบอุ่นซะยิ่งกว่าอะไรแล้วค่ะ
บ้านเดี่ยวใหม่ถือเป็นเทคนิค 10 ข้อง่ายๆ แบบที่ทำกันได้เลย ไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่ก็เปลี่ยนเตียงนอนใหม่ ว่าแล้วก็ลองกันเลยนะคะ



ดีไลท์-บางนา-ศรีนครินทร์


\'




บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ ดีไซน์ Modern พร้อมคลับเฮาส์ พาคุณเชื่อมต่อสู่ทุกจุดหมายปลายทางให้ใกล้กัน 
เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนศรีนครินทร์ ถนนกิ่งแก้ว-บางพลี ถนนเทพารักษ์ ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี วงแหวนกาญจนภิเษก พร้อมกับโครงการอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเหโจษจันง (สถานีศรีเทพา) ฉีกกรอบเดิม สู่ความทันกาลเวลาสไตล์ Modern ออกแบบให้ลงตัวทุกจังหวะการใช้ชีวิตให้คุณใช้สอยพื้นที่ได้สูงสุดกว่าใคร หลุดกรอบด้วย Adjustable Wall สั่งปรับเปลี่ยนได้ตามใจ พร้อมด้วยอุ่นใจเหนือใครด้วย Smart Home Security System ครอบคลุมทั่วโครงการ พลาดไม่ได้กับคลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะ กับบรรยากาศ ร่มรื่นสุดสายตา ฉีกตัวเอง สู่ความ Chic กับขีดสุดของการออกแบบ ที่พร้อมให้คุณมาเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ดีไลท์ บางนา-ศรีนครินทร์






ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com/










วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รีโนเวทบ้านเดี่ยวไม่ยุ่งยาก ณสไตล์ Art& Craft

รีโนเวทบ้านเดี่ยวง่ายๆ ในสไตล์ Art& Craft






บางครั้งขนาดของบ้านหลังนึงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่จักเป็นตัววัดปริมาณของความสุขของผู้อยู่อาศัยเสมอไป  แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความใส่ใจในรายละเอียดของการจัดฟังก์ชั่นพื้นที่แต่ละส่วน เพื่อให้ได้บ้านที่สวยงาม อยู่สบาย ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยที่ครบถ้วน อีกทั้งยังทำให้สนุกกับชีวิตที่มีลูกเล่น เพราะก็เพราะว่าความสุขแล้วบางครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดไม่ใช่หรือไม่ปริมาณของสิ่งที่เราได้ครอบครองเสมอไป แต่มันอยู่ที่ว่าพอดีพร้อมด้วยพอใจแค่ไหนต่างแม้
เช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ที่ถูกเนรมิตจากอาคารพาณิชย์ที่แสนธรรมดาในซอยสุขุมวิท 49  ซึ่งจากเดิมเคยเป็นร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ก่อนที่จะได้รับการรีโนเวทขึ้นใหม่ เพราะออกแบบพื้นที่บริเวณชั้นล่างให้เป็นร้านกาแฟดีไซน์เท่ภายใต้ชื่อ Casa Lapin X49  ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญของคอกาแฟในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ พร้อมกับชั้นบนใช้พักอาศัย ซึ่งเจ้าของคือ คุณลักษณ์ ณัฐพัชร สุริยะกำพล สถาปนิกหนุ่มไฟแรงจาก บริษัท บี เกรย์ จำกัด  Be gray Co.,Ltd  บริษัท ได้ที่ประกอบกิจการด้านการออกแบบตกแต่งบ้านเดี่ยวให้คำแนะนำทางด้านสถาปัตยกรรม รวมทั้งรับออกแบบภายนอกภายใน








ภายหลังที่สถาปนิกหนุ่มผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการออกแบบ ซึ่งเคยทำงานอยู่เกาะสมุยมาเกือบๆ 5 ปี เพราะว่าทำหน้าดีไซน์รีสอร์ตที่มีชื่อเสียงมามากมาย ก่อนจักขนขนย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ พร้อมกับมองหาที่อยู่ใหม่ ที่พร้อมรองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองในแบบฉบับของเขา จากที่เคยเปิดร้านกาแฟให้กรุ๊ปงานได้มีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสแล้ว มาครั้งนี้คุณลักษณ์ยังใจดีเปิดพื้นที่ส่วนตัวให้พวกงานได้ขึ้นไปชมกันอีกครั้ง  กับการออกแบบที่สะท้อนความเป็นเขาออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่ก้าวแรกของการใช้ชีวิตเลยละค่ะ
คุณลักษณ์เล่าว่า  พอกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ก็โหมโรงมองหาที่อยู่ใหม่ แล้วก็มาเจออาคารหลังนี้ นอกจากจักตั้งอยู่บนทำเลที่ดีแล้ว ยังอยู่ใกล้กับสถานที่ทำงาน พร้อมด้วยในที่สุดก็ได้ตึกแถวตรงนี้พร้อมเปิดธุรกิจเป็นร้าน  Casa Lapin X49 ของตนเองขึ้น ถ้าถามถึงในส่วนของที่พักอาศัยนั้น ผมค่อนข้างซีเรียส  เพราะว่าเราให้ความสำคัญกับบ้านมาก จึงไม่มีรูปแบบข้อจำกัดของการอยู่อาศัย เรียกได้ว่าออกแบบตามใจเราเองทั้งหมด เพราะบ้านเดี่ยวใหม่เป็นสถานที่ที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยมากที่สุด ด้วยกันเก่งหมกตัวอยู่ได้ทั้งวัน  จึงทำให้ทุกสเปซในพื้นที่คะเน 48 ตารางเมตร กลายเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของเรา
ทันทีที่ตราบก้าวลอดหลังประตูเข้าสู่พื้นที่พักอาศัยของคุณลักษณ์ เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยอยู่เหมือนกัน เพราะภาพที่เห็นระหว่างทางเดินจากภายนอกสู่ภายในนั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  พื้นที่ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ที่แทบไม่เหเอิกเกริกเค้าโครงเดิม ซึ่งสถาปนิกหนุ่มได้ถ่ายทอดแนวคิดที่มีความชัดเจน ภายใต้ภาพลักษณ์กับความเป็นตัวตนของเขาเพราะว่าว่าผสานเข้ากับสิ่งที่ชอบสะท้อนออกมาในรูปแบบที่เรียกว่า “Art & Craft” ที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น พร้อมดีเทลในการออกแบบที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันน่าสนใจ เสมือนเป็นโลกส่วนตัวของเขาเลยก็ว่าได้
การออกแบบพื้นที่ภายในเน้นความเรียบง่ายได้พร้อมกับฟังก์ชั่นใช้สอยอย่างครบครัน ด้วยพื้นที่ที่มีจำกัดปาง 48 ตารางเมตร ดังนั้นสเปซภายในจึงเชื่อมต่อกันถึงกันด้วยสายตา ให้ความรู้สึกที่ส่งสร้างผ่านทุกพื้นที่เพราะว่าไร้ขอบเขต แบบไม่มีอะไรมากั้น ทั้งห้องนอน มุมนั่งเล่น มุมแต่งตัว พร้อมด้วยมุมห้องน้ำ เพราะห้องนอนนั้นได้จัดสรรพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วนด้วยการยกสเต๊ปพื้นไม้ให้สูงกว่าระดับปกติ พร้อมเลือกระฉ่อนกระฉ่อนกใช้ประตูบานสวิงกระจก สร้างความโปร่งโล่งมองทะลุถึงได้ ทั้งนี้ยังเรียบง่ายด้วยการวางแทบฟูกที่นอนแทนการใช้เตียง  พร้อมจัดวางโต๊ะเขียนแบบเป็นมุมทำงานเล็กๆ ที่คุณลักษณ์ใช้เนื่องด้วยสเก็ตช์งาน นอกเหนือจากนี้เขาวางเช่นเฟอร์นิเจอร์ตามการใช้งาน  เพื่อช่วยแยกพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนแทนการกั้นห้องที่ชัดเจน





เพราะว่าว่าวัสดุหลักในการออกแบบคือปูนเปฟุ้งเฟื่องย อิฐ เหล็ก กระจก พร้อมกับไม้โทนสีอ่อน ทุกอย่างล้วนสะท้อนมาจากความชอบของเจ้าของบ้านทั้งสิ้น สถาปนิกหนุ่มเล่าเพิ่มเติมว่า ทันทีที่ปรับปรุงเราต้องรื้อโครงสร้างใหม่ ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด  ฝ้าที่ต้องรื้อออกพร้อมกับทาสีใหม่ รวมทั้งสีของผนังที่ทาใหม่แต่ผมจักทำสีให้ดูเก่าเหมือนว่าได้ตัดทะลุทะลวงการใช้งานมานาน ในขณะที่บางส่วนก็จักขัดสีผนังเก่าออกบ้างแล้วก็ทาสีขาวทับไปครึ่งหนึ่ง เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะว่าว่าปัญหาที่เจอของตึกแถวหลังนี้คืองานระบบที่ต้องรื้อใหม่หมดทุกอย่างไม่ว่าจักเป็นระบบประปา ระบบท่อระบายน้ำทิ้ง





พร้อมด้วยที่ดูแปลกสะดุดตาทันทีที่มองเห็นตั้งแต่ครั้งแรก ก็คงจักเป็นห้องน้ำแบบเปิดโล่ง ไม่มีอะไรมากั้นทั้งสิ้น เพราะจัดวางแค่โถสุขภัณฑ์ให้อยู่ใกล้กับช่องรับแสง เพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติพร้อมระบายกลิ่นอับพร้อมทั้งความชื้น ซึ่งเป็นอีกสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าบางครั้งการสร้างพื้นที่ส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องมิดชิดทุกด้านเสมอไป ด้วยก็เพราะว่าว่าคุณลักษณ์ให้เหตุผลว่า เวลาใช้ห้องน้ำที่ค่อนข้างมิดชิดมีแทบช่องแสงข้างบนนั้นทำให้รู้สึกอึดอัด  เขาจึงให้ความสำคัญกับห้องน้ำไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องด้วยใช้งานคนเดียว กับปริมาณการใช้งานก็ไม่ได้เป็นกองมาก ส่วนตัวผมคิดว่าห้องน้ำ เป็นเหมือนกับห้องอะไรก็ได้  ทั้งห้องรับแขก หรือว่าจักเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจักเป็นเชาว์เวอร์ โถสุขภัณฑ์  ผมจึงให้คำจำกัดความกับสิ่งเหล่านี้ว่ามันเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งเหมือนกัน ที่อาจจะโชว์ตัวเองได้ เพราะว่าไม่ต้องไปอยู่ในที่ปิดทึบมิดชิดก็ได้
แม้พื้นที่จะจำกัด แต่ความรู้สึกของผู้อาศัยกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขทุกอณู  ด้วยอิสระในการออกแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนพร้อมกับรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ อย่างชัดเจน เพราะคุณลักษณ์กล่าวแล้วว่า สเปซทุกอย่างเป็นเหมือนชีวิตเรา





ภัสสร-ไพรด์-ปิ่นเกล้า-วงแหวน






ดีไซน์...ลงตัว ทุกรายละเอียด งดงามเหนือกาลเวลา
ดีไซน์ของบ้านได้รับเเรงบันดาลใจจากงานศิลปะที่งดงามเหนือกาลเวลาในทุกองค์ประกอบลงตัวด้วยการผสมผสาน ความเรียบง่ายแบบกาลเวลาใหม่ กับ ความหรูหราเเบบคลาสสิกจัดสรร...ลงตัว ทุกพื้นที่การใช้สอยตอบสนองทุกการใช้ชีวิตในบ้านอย่างมีรสนิยม ด้วยกันตอบรับการใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีระดับด้วยพื้นที่ส่วนกลางของบ้านเพราะด้วยสังสรรค์ ตัวบ้านโปร่ง โล่งสบาย เเวดล้อมด้วยธรรมชาติในเเบบของคุณไลฟ์สไตล์...ลงตัว กับทำเลชีวิตคนเมืองตอบสนองการใช้ชีวิตสไตล์คนเมืองอย่างง่ายดาย บ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพConnection Areaเชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าทางด่วนศรีรัช(ในอนาคต)เเวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้เเหล่งคอมมูนิตี้ มอลล์(Community Mall)พร้อมทั้ง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พร้อมตอบรับความสุขในรูปเเบบการใช้ชีวิตคราวใหม่ 








ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่http://homewatch007.blogspot.com/



บ้านเดี่ยว แสนอบอุ่นข้าวของเครื่องใช้ “เถ้าแก่น้อย” มหาเศรษฐีสาหร่ายทอด

บ้านเดี่ยวที่แสนอบอุ่นเจ้าของ เถ้าแก่น้อย มหาเศรษฐีสาหร่ายทอดกรอบ






บ้านเดี่ยวหลังมหึมาที่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านย่านราชพฤกษ์ นอกจากจักเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวคุณต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ใช่ไหมว่า เถ้าแก่น้อย แล้ว ที่นี่ยังเป็นเรือนรักระหว่างเขากับน้องมิ้นท์ ประภัสสร วิริยะกิจนุกูล ภรรยาสาวสวย ที่ครั้งนี้ยินดีเปิดบ้าน กับอนุญาตให้ Sanook!Home เข้าไปเยี่ยมชม
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่น้องมิ้นท์เคลื่อนเข้ามาอยู่กับคุณต๊อบได้กะการ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ก็เพราะว่าว่าเธอเล่าว่า พี่ต๊อบพร้อมทั้งครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งแต่บุกเบิกแรก พอมิ้นท์แต่งงานกับพี่ต๊อบจึงขนโยกขยับเข้ามาอยู่ แต่ตอนพี่ต๊อบจักซื้อบ้านหลังนี้ เราก็มาดูด้วยกัน พร้อมกับระหว่างเป็นแฟนกันมิ้นท์ก็มาเที่ยวที่บ้านพี่ต๊อบบ่อยๆ





ก็ก็เพราะว่าว่าว่าโดยปกติคนทั่วไปนิยมเโจษกระฉ่อนกซื้อบ้านพักอาศัยกันอยู่ในตำแหน่งท้ายๆ ของโครงการ เหตุก็เพราะว่าว่าต้องการพื้นที่ด้วยกันความเป็นส่วนตัว แต่บ้านหลังนี้กลับตั้งอยู่หลังแรกนั่นเป็นก็ก็เพราะว่าว่าเจ้าของบ้านตั้งใจเเล่าระบือกซื้อบ้านตัวอย่าง ที่ตกแต่งทุกอย่างไว้พร้อมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์


บ้านหลังนี้เป็นบ้านแบบอย่าง ที่ ตกแต่งบ้านเดี่ยว ทุกส่วนของบ้านไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ ของตกแต่งชิ้นใหญ่ๆ ไปจนถึงของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทางโครงการเขาก็แถมให้หมด ไม่ต้องซื้ออะไรใหม่เลย เราไม่ต้องตกแต่งเอง





ลักษณะของบ้านเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ที่ได้เสริมแต่งพื้นที่รอบๆ ด้วยสวนไม้ใบเขียวร่มรื่น ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบพร้อมกับดูแลรักษาเพราะว่าว่าคุณพ่อของคุณต๊อบ นอกบ้านมีสระว่ายน้ำ พร้อมกับในรั้วเดียวกันของบ้านคุณต๊อบยังเป็นบ้านของพี่สาวคุณต๊อบที่สร้างเพิ่มขึ้นมาในภายหลัง








คราวเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เจาะเจอกับโถงโล่งๆ ที่ด้านขวามือถูกแบ่งพื้นที่เป็นห้องรับแขก ที่มีโต๊ะทำงานเล็กๆ ตั้งอยู่ในห้องเดียวกัน เดิมทีห้องนี้ไม่มีกระจกกั้น เป็นแบบเปิดโล่ง แต่ทั้งนี้เพราะมักจักมีเพื่อนๆ ของพี่ต๊อบ พร้อมด้วยเพื่อนๆ ของมิ้นท์แวะเวียนมาหาบ่อยๆ ทำให้ต้องออกแบบพร้อมกับกั้นห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมกับกันเสียงเวลาพูดคุยกันดังๆ ออกไปรบกวนคนด้านนอก สาเหตุที่เป็นกระจกใสก็ก็เพราะว่าว่าไม่ต้องการให้ห้องดูทึบจนเกินไป กับยังสมรรถมองเห็นคนภายนอกสร้างตัดข้ามกระจกได้ด้วย
ซึ่งภายในห้องเดียวกันนี้ยังได้แบ่งช่วงโซนหนึ่งเป็นที่นั่งทำงาน ก็เพราะว่าทุกๆ เช้าจักมีการมานั่งเซ็นเอกสารกันที่ห้องๆ นี้
จนกระทั่งได้เดินเข้าทะลวงโถงต้อนรับด้านหน้าเข้าไปแล้วครับ จักไปถึงในส่วนของ Dining ใช่ไหมพื้นที่เหตุด้วยรับประทานอาหาร ที่เป็นโต๊ะไม้ตัวยาวใหญ่ มีเก้าอี้ไม้เข้าชุดตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะเป็นจำนวนมาก เนื่องแต่บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของสมาชิกจำนวนมาก
บ้านส่วนหลังนี้ก็มีคุณพ่อ คุณแม่ของพี่ต๊อบด้วย พี่ต๊อบ มิ้นท์ พี่ชายพี่ต๊อบ พี่สาวพี่ต๊อบ ลูกๆ หลานๆ รวมกันอยู่หลายคน โต๊ะรับประทานอาหารจึงค่อนข้างใหญ่ แต่ส่วนหนึ่งก็เอาไว้วางของใช้ต่างๆ ด้วย จากส่วนนั่งรับประทานอาหาร ทางด้านซ้ายเป็นห้องครัว





ถ้าสมมติเดินย่ำเลยไปจากโต๊ะรับประทานอาหารจักเป็นห้องเพราะเลี้ยงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณต๊อบกับน้องมิ้นท์คือน้องโทบิ (พุฒิสิทธิ์ พีระเดชาพันธุ์) ลูกชายวัย 10 เดือน เป็นห้องกระจกขนาดใหญ่ ที่จัดสรรพื้นที่ไว้เพราะว่าว่าเด็กๆ คนอื่นภายในครอบครัว
เกี่ยวกับห้องของน้องโทบิตรงนั้นต่อเติมขึ้นมาใหม่ ซึ่งภายในอีกทั้งมีห้องนอนด้วยว่าแขกด้วย









จากพื้นที่ในซีกด้านล่างขึ้นสู่เนื้อที่ชั้น 2 สิ่งตัวบ้าน ตรงบริเวณโถงบันได ถูกยกเป็นชั้นลอยเล็กๆ ไว้เป็นจุดพัก บนเพดานบริเวณโถงบันไดตกแต่งด้วยแชนเดอเลีย ทันทีที่ขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้าน ด้านบนจักเป็นแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่คุณต๊อบ ห้องพระ ห้องพี่ชายคุณต๊อบ ห้องนอนคุณต๊อบกับน้องมิ้นท์ พร้อมด้วยห้องเสื้อผ้าของคุณมิ้นท์






ห้องเสื้อผ้าก็เป็นพื้นที่เดียวที่มิ้นท์ได้ทำขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุที่เสื้อผ้า ของใช้ของมิ้นท์มีบานเบอะ จึงขอพี่ต๊อบเปลี่ยนห้องนอนแขกเดิมเป็นห้องเสื้อผ้า เอาไว้เก็บเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รองเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างของมิ้นท์จักอยู่ในห้องๆ นี้ แต่พี่ต๊อบก็ขอให้มีชั้นเหตุด้วยวางหนังสือกับหนังที่เขาชอบไว้ด้วย
ห้องเสื้อผ้าของน้องมิ้นท์นั้นถูกออกแบบภายในห้องเป็นสีขาว มีกระจกประดับแบบบิวท์อิน ล้อมรอบด้วยตู้เสื้อผ้า กับตู้เครื่องประดับ เพราะว่าว่าว่าห้องเสื้อผ้านี้จักมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ก็เพราะว่าว่าผนังระหว่างห้องเสื้อผ้ากับห้องนอนนั้นถูกเพ้นท์ด้วยสีอะคริลิก ทำให้บรรยากาศของบริเวณนั้นสดใสมากยิ่งขึ้น





งานเพ้นท์ผนังนี้ เปิดผนังจากพี่สาวของพี่ต๊อบเขาเพ้นท์ผนังที่บ้านของเขา เห็นแล้วเราก็รู้สึกว่าเอามาเพ้นท์ที่ห้องตัวเองบ้างก็คงจะดี แต่ก็เพราะว่าว่าพื้นที่ตรงนี้มันแคบ เลยได้แค่นี้ ใช้รูปต้นไม้เพราะว่ามันทำให้บ้านดูสดชื่นขึ้น ไม่เลี่ยนเกินไป ก็ก็เพราะว่าว่าว่าวอลเปเปอร์ของมิ้นท์ก็เป็นลายสีชมพูอยู่แล้ว เห็นใจพี่ต๊อบเค้า





บ้านของน้องมิ้นท์กับคุณต๊อบนั้นเป็นที่พักที่แสนอบอุ่นเหเลื่องลือกระฉ่อนเกิน ก็เพราะว่าว่าตลอดระยะเวลาที่คณะงานของเราอยู่ภายในบ้านหลังนี้ จักมีผู้คนแวะเวียนเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติ กับคนที่รู้จักกันแวะมาเยี่ยม ทักทาย ไปมาหาสู่กันตลอดเวลา นั่นแสดงให้เห็นว่า บรรยากาศความอบอุ่น กับความรักใคร่ ผูกพันของคนในบ้านนั้นสำคัญเหนือกว่าขนาดของบ้าน




เพราะว่ามิ้นท์แล้วสมมุติคิดว่าที่พักคือ ที่ทิ้งตัว เราก็สารารถจักทิ้งตัวในบ้านของเราได้จากทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งปัญหา ความทุกข์ ปางกลับมาที่บ้านเดี่ยวใหม่ บ้านคือที่ที่เราจะทำอะไรก็ได้ เราจักได้พักผ่อนด้วยกันเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดภายในบ้านของเรา
ใครอาจจักนึกว่าบ้านของเศรษฐีระดับถึงพันล้านอย่าง เถ้าแก่น้อย นั้นจักต้องใหญ่โตเป็นคฤหาสน์ แต่คราวเข้ามาสัมผัสอย่างแท้สุทธิ สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดมากนั่นคือ ความใหญ่โตของความรักระหว่างคนภายในครอบครัว ซึ่งนี่แหละที่ทำให้ Sanook! Home เชื่อว่า น่าจักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีเถ้าแก่น้อยอย่างเช่นทุกวันนี้




ภัสสร-ไพรด์-ศรีนครินทร์-หนามแดง




YOUR GREAT LIFE BEGINS เกริ่นต้นชีวิตครอบครัวที่เหนือกว่า
โครงการภัสสร ไพรด์ ศรีนครินทร์-หนามแดง ภายใน “Pruksa Avenue”บ้านสไตล์ MODERN CLASSIC ที่มีพื้นที่ตอบสนองทุกความต้องการผสานสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ Club House, สระว่ายน้ำพร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง



ติดตาม อัพเดท ข่าว คอนโด ทาวน์เฮาส์ ขายบ้าน ได้ที่ http://homewatch007.blogspot.com/